[ลือ] Yuru Yuri Season 3 อาจฉายกรกฏาคม 2013

ข่าวที่ไม่มีมูลอะไรเลย แต่ก็เป็นไปได้ เมื่อในญี่ปุ่น มีการคุยถึงงาน Event “Nanamori Chu Goraku Bu” (七森中☆ごらく部) ของทาง Yuru Yuri ที่จะจัดขึ้นในเดือน 7 ปี 2013 ที่จะถึงนี้ ซึ่งตรงกับเดือนที่ Yuru Yuri ภาคก่อนฉายพอดี ทำให้กลายเป็นประเด็นพูดคุยกันในวันนี้ เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็น Event เพื่อโปรโมตอนิเมะในช่วงที่กำลังฉาย แต่ถ้าให้เดาว่า SS3 ควรฉายเดือนไหนก็คงเดากันไม่ยากอยู่แล้ว เพราะ 2 ซีซันแรก ฉายปี 2011 และ 2012 ในต้นเดือนกรกฎาคมเหมือนกัน

Yuru Yuri หรือชื่อไทย คลับบ้าฮาต๊อง เป็นอนิเมะของบริษัท Dogakobo (ที่กำลังจะทำอนิเมะเรื่อง Majestic Prince ในซีซันหน้า) ดัดแปลงจากมังงะของ Namori นักวาดการ์ตูนที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์คนหนึ่ง เนื้อเรื่องเกี่ยวกับตัวละครหลักหญิง 4 คน คือ Akaza Akari, Toshinou Kyouko, Funami Yui และ Yoshikawa Chinatsu ชีวิตประจำวันธรรมดาๆ ในชมรมบันเทิง (Goraku-bu) ที่มีสีสันทุกวัน แล้วยังมีตัวละครสาวๆ สมทบอีกหลายคน ถึงชื่อเรื่องจะมีคำว่า ยูริ ที่สื่อเหมือนเป็นความรักระหว่างเพศหญิงด้วยกัน แต่ในเรื่องก็ไม่ได้เน้นบทความรักเลย เป็นแนว Comedy เป็นหลักมากกว่า จุดหนึ่งที่ถูกใจผู้ชมบางกลุ่มแน่นอน คือ ตัวละครในเรื่องเป็นผู้หญิงหมด (มีตัวประกอบผู้ชายเดินผ่านฉากบ้าง แต่น้อยจนแทบมองไม่เห็น)

Twitter ที่กล่าวถึงงาน 七森中☆ごらく部

จุดเด่นเรื่องนี้ในฉบับอนิเมะอยู่ที่มีการแก้ไขบทหลายอย่าง ทำให้กลายเป็นเรื่องที่ดูมีไอเดียและมุกเยอะขึ้นจากฉบับมังงะ ด้วยฝีมือของผู้กำกับ Ohta Masahiko และคนเขียนบท Aoshima Takashi ที่ทำงานร่วมกันมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะอนิเมะแนว Comedy อย่าง Minami-ke Season 1, Mitsudomoe และล่าสุด คือเรื่อง Kotoura-san ที่เปลี่ยนจากเรื่องไม่มีชื่อ จนกลายเป็นเรื่องดังขึ้นมาได้ เช่นเดียวกับตอนทำ Yuru Yuri ซีซันแรกที่เป็นเพียงอนิเมะเฉพาะกลุ่ม แต่หลังฉายกลับดังมาก เกิดการพูดถึงทางสื่อโซเชียลหลายครั้ง โดยเฉพาะมุกนางเอกจืดจาง ซีซันแรกยังได้รางวัล Anime Kobe Awards ในสาขาอนิเมะทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม เมื่อเดือนตุลาคม 2012 ด้วย

สำหรับ Yuru Yuri นอกจากมุกแล้ว ด้านภาพที่น่ารัก ทำให้กลายเป็นเรื่องขายดีของทางบริษัท Dogakobo ซึ่งทำยอดขายได้ระดับ 8 พันชุดขึ้นไป ทั้งสองภาค รวมทั้งสินค้าต่างๆ ของเรื่องนี้อีก ไม่แปลกที่จะทำภาคต่อได้เรื่อยๆ แต่จะฉายเดือนกรกฏาคมจริงตามที่ลือกันหรือเปล่า ก็ต้องรอดูกันต่อไป

Source : 0taku / Kobe Awards 2012