Visual Novel กับวงการอนิเมะ

Visual Novel อาจนับเป็นเกมประเภทหนึ่งก็ได้ เพียงแต่มีจุดต่างกัน ตรงที่แทบจะไม่มีวิธีการเล่นเลย อาจมีตัวเลือกนิดหน่อยเท่านั้น และมีการแบ่งฉากจบได้หลายแบบ ทำให้ Visual Novel ไม่แตกต่างจาก นิยายแบบอ่านบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องคอนโซลและเป้าหมายการขายเกมประเภทนี้ จะอยู่ที่เนื้อเรื่องและภาพประกอบเป็นหลัก ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นเกมแนว 18 อัพ แต่ก็มีหลายเรื่องที่ไม่ได้เน้นขายภาพอย่างว่า แต่เน้นเนื้อเรื่องที่เข้มข้น แค่ใช้ฉากติดเรตเป็นตัวดึงความสนใจเท่านั้น ทำให้บางเรื่องสนุกกว่า Light Novel บางเรื่อง

ด้าน Visual Novel มีจุดเด่นพิเศษกว่า Light Novel อยู่ 3 จุดใหญ่ๆ
1. เสียงพากย์ ได้บรรยากาศการพูดคุย น้ำเสียง อารมณ์ ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
2. เพลงบรรเลงประกอบ ได้อารมณ์ตามสถานการณ์ ช่วงจริงจัง, พูดหวาน, หวาดกลัว หรือมีเรื่องขบขัน จะต่างกันไป
3. มีการแสดงภาพตัวละครบ่อยครั้ง, ฉากสถานที่ และเปลี่ยนอริยาบทให้เห็น โดยไม่ต้องใช้จินตนาการมากนัก

ถึง Visual Novel จะดูค่อนข้างสมบูรณ์กว่า Light Novel แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่อง Platform ที่ลง อีกทั้งไม่สะดวกต่อการอ่านในหลายโอกาส ภาพเคลื่อนไหวก็ต่างจากอนิเมะเต็มตัว และที่สำคัญส่วนใหญ่จะจบในภาคเดียว ไม่ทิ้งปมไว้ค้างคานัก ทำให้ไม่ต่อเนื่องเท่า Light Novel

Visual Novel ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีทางหนึ่งสำหรับทำอนิเมะ ด้วยจุดเด่นที่ว่าสามารถทำให้จบลงตัวได้ในภาคเดียวและอิงข้อมูลหลายอย่างจาก VN ได้ง่ายโดยไม่ต้องจินตนาการ แต่ข้อเสียก็มีตรงที่ว่า เนื้อหาส่วนใหญ่จะยาวประมาณ 20 – 30 ชั่วโมง การจะลดเนื้อหาให้พอสำหรับอนิเมะ 12 ตอน ที่มีความยาวประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ส่วนจุดไคล์แม็กซ์ก็เป็นปัญหาเหมือนกันเพราะบางเรื่องไม่ได้คำนึงถึงกรณีที่ดัดแปลงเป็นอนิเมะ ทำให้เก็บจุดไคล์แม็กซ์ไว้ช่วงหลังๆ คนเล่นเกมอาจรอได้เพราะซื้อเกมมาแล้ว แต่คนดูอนิเมะอาจเบื่อจนเลิกดูกลางทางได้

สรุปแล้ว สำหรับผู้ชมอนิเมะดัดแปลง จาก Visual Novel กับ Light Novel เมื่อเอามาดัดแปลงเป็นอนิเมะจะไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าคิดจะไปหาเกมต้นฉบับเล่น สำหรับคนไทยจะลำบากกว่า Light  Novel มาก เพราะเกมส่วนใหญ่ไม่มี Patch ENG ทำให้ต้องแปลกันเอง และเข้าใจยากกว่าพวก Light Novel ที่ส่วนใหญ่จะมีคนแปลเนื้อหาให้อ่านกัน